This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลวดเชื่อม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลวดเชื่อม แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การใช้เครื่องเชื่อมก๊าซ

การใช้เครื่องเชื่อมก๊าซ

การเชื่อมก๊าซเป็นวิธีการเชื่อมแพร่หลาย เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อโลหะที่เป็นแผ่นบาง เพราะการเชื่อมด้วยไฟฟ้าทำไม่ได้เนื่องจากมีอุณหภูมิสูง แผ่นโลหะหลอมตัวมากไฟ พบมากใช้ในโรงงานหล่อหลอมโลหะ โรงงานตัดเรือเหล็ก อู่เคาะพ่นสี ร้านทำท่อไอเสียรถยนต์ และงานซ่อมบำรุงประจำโรงงาน อันตรายของเครื่องเชื่อมก๊าซได้แก่ ท่อบรรจุก๊าซระเบิด แสงจ้าจากการเชื่อม เปลวไฟจากหัวเชื่อมและฟูมหรือก๊าซพิษ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมก๊าซ
1. ท่อบรรจุก๊าซ ออกซิเจน อะซิติลีน หรือถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว
2. ชุดควบคุมความดันก๊าซ ทำหน้าที่ลดความดันให้เหมาะสมที่จะจ่ายไปใช้งาน
3. มาตรวัดความดันก๊าซ มี 2 ชุด มาตรวัดความดันสูงใช้วัดความดันในท่อบรรจุก๊าซ มาตรวัดความดันต่ำวัดความดันที่จ่ายไปใช้งาน
4. สายส่งก๊าซ มี 2 เส้น สำหรับก๊าซออกซิเจนและก๊าซอะเซทิลีน ส่วนก๊าซปิโตรเลียมเหลวจะใช้สายเดียว
5. หัวเชื่อมหรือหัวตัด ทำหน้าที่ผสมก๊าซทั้ง 2 ชนิดและทำหน้าที่ปรับเปลวไฟ
6. อุปกรณ์จุดประกายไฟ ทำหน้าที่ก่อให้เกิดประกายไฟสำหรับหัวเชื่อมหรือหัวตัด
7. ลวดเชื่อม ทำหน้าที่ประสานชิ้นงานเข้าด้วยกัน
8. อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น แว่นตากรองแสง ถุงมือ และรองเท้านิรภัย

การเชื่อมโลหะด้วยก๊าซอย่างปลอดภัย
1. อุปกรณ์การเชื่อมหรือตัด
1.1 ท่อบรรจุก๊าซ ออกซิเจน อะเซติลีนหรือปิโตรเลียมเหลว จะต้องได้มาตรฐานและมีการตรวจสอบตามระยะเวลาที่กำหนด
1.2 ชุดควบคุมความดันก๊าซ สามารถควบคุมก๊าซที่จ่ายออกมาคงที่สม่ำเสมอ และได้มาตรฐานหรือมีสถาบันรับรอง
1.3 มาตรวัดความดัน จะต้องตกศูนย์เมื่อไม่มีความดัน ถ้ามีความดันเข็มจะเคลื่อนที่อย่างไม่ติดขัดหรือค้างเป็นช่วงๆ
1.4 ปลายสายส่งก๊าซออกซิเจนจะใช้ข้อต่อแบบเกลียวขวา ส่วนปลายท่อส่งก๊าซเชื้อเพลิงจะใช้เกลียวซ้าย ป้องกันการต่อสายสลับกัน
2. ช่างเชื่อม เพื่อความปลอดภัยควรมีคุณสมบัติหรือต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับช่างเชื่อมไฟฟ้า
2.1 ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเชื่อมและวิธีการเชื่อมแก๊สมาอย่างดี
2.2 ควรได้รับการฝึกให้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิง
2.3 ต้องแต่งกายให้เหมาะสม เช่น สวมเสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวทำด้วยผ้าเนื้อหนา
2.4 รู้จักใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น หน้ากากกรองแสงสำหรับเชื่อมแก๊ส รองเท้านิรภัยชนิดหุ้มข้อแบบไม่ใช้เชื่อกผูก ถุงมือหนัง เสื้อหนังสำหรับงานเชื่อม และผ้าคลุมหน้าอกและลำตัวหรือเอี๊ยม เป็นต้น
3. บริเวณที่ปฏิบัติงาน เพื่อความปลอดภัยควรมีลักษณะเช่นเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น
4. การเชื่อมหรือตัดด้วยก๊าซเพื่อความปลอดภัย
4.1 ท่อก๊าซที่นำไปใช้งานต้องวางห่างจากแหล่งความร้อน และยึดแน่นไม่ล้มง่าย
4.2 ตรวจสอบรอยรั่วของก๊าซที่บริเวณชุดควบคุมความดันด้วยฟองสบู่โดยเน้นบริเวณรอยต่อของวาล์วกับท่อก๊าซ และควรทำทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนท่อก๊าซใหม่
4.3 ตรวจสอบรอยรั่วของสายส่งก๊าซ โดยการเปิดก๊าซผ่านเข้าท่อส่งก๊าซทั้งสอง แล้วปิดวาล์วที่หัวเชื่อมไว้ นำสายส่งก๊าซจุ่มลงในน้ำ ถ้ามีการรั่วจะเกิดฟองน้ำผุดขึ้นมา
4.4 ตรวจสอบรอยรั่วที่วาล์วของหัวเชื่อม และรอยต่อสายส่งก๊าซด้วยฟองสบู่
4.5 ปรับตั้งแรงดันก๊าซออกซิเจนและก๊าซอะเซทิลีนหรือก๊าซอื่นให้เหมาะสมก่อนใช้งาน
4.6 การจุดไฟที่หัวเชื่อมควรใช้อุปกรณ์จุดไฟโดยเฉพาะไม่ควรใช้ไม้ขีด
4.7 การจุดไฟที่หัวเชื่อมเริ่มจากการเปิดวาล์วก๊าซอะเซทิลีนก่อนโดยให้ก๊าซออกมาเล็กน้อย แล้วจุดประกายไฟ เมื่อไฟติดจึงเปิดวาล์วก๊าซออกซิเจน จากนั้นปรับเปลวไฟให้ได้ตามต้องการ ส่วนการปิดก็ให้ปิดวาล์วก๊าซอะเซทิลีนก่อนแล้วจึงปิดวาล์วออกซิเจนตาม
4.8 ท่อก๊าซที่ยังไม่ได้ใช้งานควรมีฝาครอบวาล์วปิดไว้ ท่อที่ใช้แล้วควรมีป้ายบอกและแยกเก็บเป็นสัดส่วน
4.9 ห้ามใช้น้ำมันหรือจารบีในการหล่อลื่นข้อต่อก๊าซทุกจุด
4.10 การเปิดวาล์วจากท่อออกซิเจน ควรเปิดช้าๆ เพราะความดันภายในท่อออกซิเจนสูงมาก การเปิดอย่างรวดเร็วอาจเกิดอันตรายได้
4.11 ห้ามเชื่อมหรือใช้หัวตัดด้วยก๊าซโดยไม่สวมแว่นตากรองแสงที่เหมาะสม




ลวดเชื่อมแก๊ส (Filler Rod)

ลวดเชื่อมแก๊ส หมายถึง โลหะที่ใช้เติมลงในบ่อหลอมเหลวขณะทำการ
เชื่อมด้วยแก๊ส ซึ่งจะมีส่วนผสมของธาตุต่าง ๆ ที่มีสมบัติใกล้เคียงกับโลหะชิ้นงานมากที่สุด และยังสามารถเพิ่มสมบัติทางเชิงกลของแนวเชื่อมให้ดียิ่งขึ้น
4.1สมบัติของลวดเชื่อมแก๊ส
ของลวดเชื่อมแก๊ส จะเป็นลวดเชื่อมเปลือย (Bare) ทรงกลมผิวจะเคลือบด้วยทองแดง เพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศและเก็บรักษาไว้ได้นาน ป้องกันการเกิดสนิมได้ง่าย ลวดเชื่อมแก๊สจะมีขนาดตั้งแต่ 2 – 6 มิลลิเมตร
4.2ประเภทของลวดเชื่อมแก๊ส
ลวดเชื่อมแก๊สแบ่งตามชนิดของโลหะที่ใช้ในการผลิตได้ 2 ประเภท คือ
4.2.1 ลวดเชื่อมแก๊สที่เป็นเหล็ก จะมีส่วนผสมของธาตุเหล็ก เป็นหลักและจะมีส่วนผสมของธาตุอื่นเล็กน้อย เพิ่มธาตุคาร์บอน แมงกานีส ซิลิคอน และฟอสฟอรัส เป็นต้น ซึ่งการเชื่อมโลหะที่เป็นเหล็กนี้จะใช้ฟลั๊กซ์หรือไม่ใช้ก็ได้
4.2.2 ลวดเชื่อมแก๊สที่ไม่ใช่เหล็ก ใช้ในการเชื่อมโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น อลูมิเนียม ทองแดง ทองเหลืองเป็นต้น และการเชื่อมโลหะประเภทนี้ จำเป็นต้องใช้ฟลักซ์ เพื่อช่วยในการประสานได้ดี ลวดเชื่อมทั้งสองชนิดนี้ อาจจะทำเป็นเส้นหรือม้วนก็ได้ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาว
4.3 มาตรฐานสัญลักษณ์ลวดเชื่อมแก๊ส
มาตรฐานลวดเชื่อมแก๊สที่จำแนกโดยสมาคมการเชื่อมของประเทศสหรัฐอเมริกา มาตรฐาน AWS (American Welding Society) ได้กำหนดชนิดและสมบัติของลวดเชื่อมแก๊สเป็นตัวอักษรและตัวเลข เช่น
GA – 50 GA – 60
GB – 60 GB – 65
ซึ่งมีความหมายดังนี้
ตัวอักษร G หมายถึง ลวดเชื่อมแก๊ส
A หมายถึง ลวดเชื่อมที่มีสมบัติยึดตัวสูง
(High Ductility)
B หมายถึง ลวดเชื่อมที่มีสมบัติยืดตัวต่ำ
(Low Ductility)
ตัวเลข 50 , 60 และ 60 หมายถึง ค่าความต้านแรงดึงต่ำสุดที่แนวเชื่อมทนได้คูณด้วย 1,000 มีหน่วยเป็นปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ตัวอย่าง GA – 65
G = ลวดเชื่อมแก๊ส
A = ลวดเชื่อมที่มีสมบัติยืดตัวสูง
65 = แนวเชื่อมรับแรงดึงได้ต่ำสุด 65,000 ปอนด์ต่อ
ตารางนิ้ว (65 X 1,000 = 65,000 PSI)